Weber Thailand

Open Time คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไรต่อการปูกระเบื้อง?

  • Weber Thailand

    Open Time หรือภาษาไทย คือ “ช่วงเวลาที่ใช้ระหว่างปาดกาวซีเมนต์จนถึงปูกระเบื้อง” ซึ่งกาวซีเมนต์ที่มี Open Time สูงจะมีคุณสมบัติแห้งช้ากว่าปกติ และปูนกาวของเวเบอร์ ตราตุ๊กแก กลุ่มคุณภาพสูงก็จะมีค่าเฉลี่ยของ Open Time อยู่ที่ 20-30 นาที

    ในการปูกระเบื้องด้วยกาวซีเมนต์ ช่างมักจะใช้เกรียงหวีทำการขึ้นหน้าปูนในพื้นที่ที่ต้องการ ขนาดของพื้นที่จะสัมพันธ์กับเวลาที่ช่างแต่ละคนใช้ในการปูกระเบื้องได้โดยที่กาวซีเมนต์ยังไม่แห้งตัว โดยทั่วไปจะใช้พื้นที่ครั้งละครึ่งตารางเมตร หรือหนึ่งตารางเมตร ถ้าขนาดกระเบื้องไม่ใหญ่ เช่น เล็กกว่า 30x30 เซ็นติเมตร ช่างก็สามารถที่จะเอากระเบื้องแปะไปได้เลยอย่างต่อเนื่องกัน โดยสามารถจัดแนวกระเบื้องได้ตามต้องการในเวลาเดียวกัน ดังนั้น ถ้าช่างปูกระเบื้องอย่างถูกวิธี ด้วยวิธีเช่นนี้ Open Time สำคัญมากๆ คือจะช่วยทำให้การปูกระเบื้อง เสร็จเร็วกว่าเดิมมาก จะเห็นได้ว่าช่างสามารถปูกระเบื้องได้หลายชิ้นภายในการขึ้นหน้าปูนครั้งเดียว

    ถ้าเราย้อนไปในการปูกระเบื้องแบบพฤติกรรมเดิม คือช่างไม่ได้ใช้เกรียงหวี แต่ใช้เกรียงใบโพธิ์ในการตักปูนดำ ปาดบนหลังกระเบื้องทีละแผ่นแล้วก็แปะ การปูในลักษณะนี้อาจจะไม่ได้อ้างอิง Open Time  เลย เพราะว่าอะไร เพราะว่าเป็นช่วงเวลาสั้นมาก วิธีปูอย่างนี้เราเคยพิสูจน์แล้วนะครับว่าเราเคยทำเทียบกัน ว่าวิธีปูแบบดั้งเดิมกับช่างที่ชำนาญแล้ว และปูด้วยเกรียงหวี เร็วกว่าเดิมมากกว่า 2 เท่า หรือบางทีมากกว่า 2 เท่าแน่นอน และในแง่ของ Productivity เอง Open Time  ออกแบบมาเพื่อให้ช่างทำงานได้เร็วขึ้น

    ในมุมมองของช่างคือ จะทำงานได้จำนวนตารางเมตรต่อวันมากขึ้น ถ้ารับเป็นค่าแรงต่อตารางเมตร ก็จะมีรายได้มากกว่าเดิม 2 เท่า 3 เท่า ถ้าในแง่ของเจ้าของงาน ก็จะมองว่างานเสร็จเร็วขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า 3 เท่า แต่ทั้งนี้ต้องย้อนกลับไปว่าต้องปูให้ถูกวิธีด้วย

    การผลิตเพื่อให้ได้ Open Time นาน เวเบอร์ ตราตุ๊กแก มีการใส่เคมีบางตัวเข้าไปช่วย ซึ่งก็เป็นต้นทุนทางการผลิต แลกกับการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานให้กับลูกค้า ช่างจะเริ่มขึ้นกาวซีเมนต์ที่พื้นผิวได้กว้างขึ้น พื้นที่มากขึ้น ในท้องตลาดอาจมีกาวซีเมนต์หลายเกรด หากลดปริมาณเคมี ทำให้ต้นทุนถูกลง ก็จะส่งผลให้กาวซีเมนต์แห้งเร็วขึ้น ภายในพื้นที่ 1 ตารางเมตร เท่าเดิม อาจจะปูกระเบื้องได้น้อยลง เพราะเมื่อกาวซีเมนต์เริ่มแห้ง เป็นฟิล์มที่ผิวหน้า ถึงแม้จะนิ่มเวลากดลงไปที่กาวซีเมนต์ที่ยังเปียกอยู่ ก็จะไม่ติดหลังกระเบื้องแล้ว เราเลยความสามารถตอนเปียกเนี่ยเราเรียกว่า Wet Capability

    ดังนั้น Open Time มีข้อดีมากๆ โดยเฉพาะการปูหิน ปูกระเบื้องขนาดใหญ่มากๆ หรือปูกระเบื้องบนผนัง ช่างจะต้องการระยะเวลาที่นานขึ้นเพราะถ้ากาวซีเมนต์แห้งเร็ว ก็จะปูกระเบื้องได้จำนวนน้อยลง และไม่สามารถจัดแต่งกระเบื้องได้ตามต้องการ กระเบื้องแผ่นใหญ่ที่มีราคาแพง ช่างก็ต้องอาศัยฝีมือในการทำงานให้ออกมาเนี้ยบ สวยงาม ทั้งนี้อยู่ภายใต้พื้นฐานว่า ช่างต้องปูกระเบื้องให้ถูกวิธี เพื่อให้ได้ประโยชน์ทั้งกับช่างปูกระเบื้อง แล้วก็คุณภาพงานโดยรวม ลูกค้าเจ้าของสถานที่ก็มั่นใจ